มีแผนในใจคร่าวๆมาสักพักแล้ว (น่าจะปีสองปีก่อน) ว่าถ้ามีเงินเก็บมากพอ ก็จะซื้อบ้านในภูเก็ต เพื่อเอาไว้อยู่ตอนเกษียณ เพราะชอบบรรยากาศ และมีเพื่อนอยู่พอสมควร
ซึ่งจะไปซื้อบ้านหรือคอนโดริมทะเล ก็น่าจะฝันเฟื่องเกินไป เพราะใช้เงินหลาย(สิบ)ล้าน ไม่น่าจะมีปัญญา ที่พอจะเป็นไปได้คือหาบ้านในเมืองที่อยู่ในแหล่งชุมชน ใกล้ตลาด, ร้านอาหาร, โรงพยาบาล, ห้าง
  ตอนแรกๆก็คิดว่า บ้านริมถนนหลักน่าจะดี ชั้นล่างปล่อยให้คนอื่นเช่าทำมาค้าขาย แล้วเราก็อาศัยอยู่ชั้นบนเก็บค่าเช่ากินไป แต่พอไปดูบ้านที่ประกาศขาย เริ่มถามราคา ก็หลักสิบล้านทั้งนั้น
  ต่อมาก็ไปเจอกลุ่มขายบ้านและที่ดินใน Facebook ซึ่งก็มีที่น่าสนใจหลายแหล่ง ทั้งในเมืองนอกเมือง ที่ดินเปล่าหรือบ้านพร้อมที่ดิน จดรายชื่อมาเกือบสิบ พอเริ่มโทรไปคุยดูรายละเอียด ก็เหลือแค่ 2 ตัวเลือก (นายหน้าคนเดียวกัน) ซึ่งถ้า2หลังนี้ไม่ชอบ ก็ยังไม่รีบซื้อ

  ในจังหวะที่พาแม่ไปเที่ยวปลายปี 2564 ก็แวะไปดูสถานที่จริง เพราะในรูปมีแค่บางมุม เรื่องทำเลก็ถูกใจพอสมควรเป็นทาวน์เฮ้าส์อยู่แถวสามกอง เรียกว่าเดินทางไปไหนต่อไหนได้ง่าย
เห็นในบ้านครั้งแรกก็คิดว่า สภาพต่างจากที่คิดไปหน่อย น่าจะต้องซ่อมและดัดแปลงเยอะอยู่ แต่ในแผนก็มีทางเลือกที่จะปล่อยเช่าระยะหนึ่ง เลยคิดว่าซ่อมไปส่วนนึง ไม่ต้องดัดแปลงบ้านเพิ่มก็ได้
(เจ้าของบ้านเดิมเป็นตำรวจ ที่เกษียณอายุแล้วจะย้ายกลับไปอยู่สวน เลยจะขายหลังนี้ แต่หลังข้างๆก็เป็นของเขา ไม่ได้ขาย)
ตอนดูเสร็จ ใจก็คิดว่าจะซื้อเกิน 90% แล้ว ถ้าไม่มีอะไรเกินคาด

  พอคุยกับเจ้าของบ้านแล้ว อีก2-3วันก็วางมัดจำเลย (นายหน้าก็บิ๊วกูจัง) นายหน้าเตรียมเอกสารอะไรไว้ให้แล้ว ตอนเย็นก็ไปธนาคารยื่นเอกสารกู้เลย (ไปถึงธนาคาร 15.30 เกือบปิด แต่กว่าจะคุยเสร็จก็เป็นชั่วโมง ปิดร้านพอดี) แล้วก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพคืนนั้น
ตอนไปทำสัญญา ก็มีช่างรับเหมาซ่อมบ้าน ไปด้วยกัน ช่างก็วัดระยะอะไรต่างๆไป ซึ่งก็มีเพื่อนติดต่อมาให้ ประหยัดเวลาไปเยอะ
  วางงบซ่อมไว้ประมาณนึง แล้วก็ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านอีก ไม่รู้ว่าตอนจบ จะใช้เงินไปเท่าไหร่ ก็จดเอาไว้เป็นระยะ เดี๋ยวค่อยๆหาเงินจ่ายไปเรื่อยๆ
ช่วงนี้ก็คุยกับช่างทางไกลไปก่อน ถ้าโอนบ้านอะไรเสร็จแล้ว ก็คงให้ช่างเข้าทำงานเลย