Family tree (เกือบทั้งหมดคือ แม่เล่าให้ฟัง)
ในส่วนนี้อธิบายความจีนแท้ๆ ไม่มีเชื้อชาติอื่นปน อากงอาม่าภูมิใจ แต่ส่วนตัว ก็เฉยๆ เพราะเกิดเมืองไทย โตที่ไทยมาตลอด แทบจะพูดจีนไม่ได้ (นอกจากคำที่อากงอาม่า พูดบ่อยๆจะพอจำได้) จนกระทั่งไปเรียนภาษาจีนกลาง ถึงจะพอมีความเป็นจีนอยู่บ้าง นอกจากหน้าตา (แต่ตอนไปอยู่เมืองจีนดันไปอยู่เมืองทางเหนือ เขาก็ดูออกว่าเป็นจีนทางใต้)
ปู่ ชื่อ ยู่เกียว แซ่ฉั่ว (ภาษาแต้จิ๋ว)
ย่า ชื่อ ไอ้ม่วย แซ่คู (ภาษาแต้จิ๋ว)
ปู่ เป็นลูกชายคนเล็ก พ่อแม่ของปู่มีลูกชาย 5 คน ลูกสาว 2 คน แต่ไม่รู้เรียงลำดับยังไง (ลูกสาวแต่งออก)
ลูกชายคนที่ 2 เป็นคนที่มาเมืองไทยก่อน ทำมาหากินหลายอย่าง จนจบที่ทำโรงเพาะถั่วงอก แถวศรีย่าน แล้วก็เรียกปู่ มารับช่วงกิจการ (ปู่มาจากเมืองจีนตอนอายุ 17 ส่วนพี่ชายคนรองก็กลับไปเมืองจีน)
ย่า เป็นลูกสาวคนเดียว โดนผู้ใหญ่คลุมถุงชนให้แต่งงานกับปู่ (ปู่อยู่เมืองไทย) มาเมืองไทยตอนปู่อายุ 24 ก็ไปรับเข้าบ้าน
หลังจากนั้นปู่กับย่า ก็มีลูกหลายคน (บางคนตายตั้งแต่เด็กๆ เลยไม่รู้เรื่องราว) เท่าที่โตมามี ลูกชาย 4 คน ลูกสาว 2 คน เรียงลำดับก็เป็น ช1 ญ1 ญ2 ช2 ช3 ช4
พ่อเป็นลูกชายคนที่ 2 สำรอง (จริงๆมีลูกชายอีกคนนึงที่ตายตั้งแต่เล็กๆ เลยไม่รู้ลำดับ)
ย่าตายด้วยโรคเบาหวาน ที่รพ.มิชชั่นแถวยมราช ประมาณปี 252x ลูกหลานทุกคนก็มีความเสี่ยงจะเป็นเบาหวานด้วย แต่เท่าที่รู้คือไม่มีใครได้รับพันธุกรรมมา
ตา ชื่อ ซู่ไอ่ แซ่เฮ้ง (ภาษาแต้จิ๋ว)
ยาย ชื่อ ซู่เฮียง แซ่อึ้ง (ภาษาแต้จิ๋ว)
ตา
ยาย มีพ่อคนนึง แต่พ่อมีเมีย 2 คน แต่ละคนก็มีลูกหลายคน
ยายถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวของตาตั้งแต่เด็ก ในฐานะลูกบุญธรรม แต่ทำไปทำมา ก็แต่งงานกับตา (ตั้งแต่อยู่เมืองจีน)
ตากับยาย ลงเรือมาเมืองไทยด้วยเรือลำสุดท้ายของท่าเรือ (หลังจากนั้น ไม่มีจีนอพยพทางท่าเรือนี้ แต่อาจจะมีท่าเรืออื่น) ขึ้นฝั่งแถวตลาดพลู มีญาติไปรับและให้อาศัยอยู่ด้วยในช่วงแรก
ต่อมาก็ย้ายมาตั้งหลักแถวสี่แยกบางกระบือ ในซอยที่ตรงข้ามโรงเรียนราชินี(บน) ต่อมาก็ย้ายเข้าไปอยู่ในซอยศิริสาสน์ มีลูก 8 คน คนที่ 3 เป็นผู้ชาย นอกนั้นเป็นผู้หญิงหมดทุกคน
แม่เป็นลูกสาวคนโต
แม่เล่าว่า ตาทำงานเยอะกินเหล้าเยอะ เลยตายไว ประมาณปี 252x
พ่อกับแม่ ถูกผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักและแต่งงานกัน หลังจากนั้นก็มีลูก 3 คน ทำงานให้ปู่ ที่โรงถั่วงอกบางซื่อ รายได้เข้ากงสีอยู่นานจนปู่อายุมาก ก็ยกกิจการให้พ่อกับแม่เหมาหมด กิจการระยะหลังไม่ค่อยดี ลูกค้าน้อยลง (ลูกค้าซื้อจากที่อื่น) จนแม่อายุ 60กว่าๆ ลูกทุกคนเรียนจบแล้ว ก็เลยบอกให้แม่เลิก (ประมาณปี 2554)
ครอบครัวฝั่งพ่อมีฐานะดีกว่าประมาณนึง ลูกๆได้เรียนหนังสือจนถึงระดับปริญญาตรีเกือบทุกคน (บางคนก็มากกว่า บางคนก็น้อยกว่านิดๆ)
ป้า ญ 2 เรียนบัญชี และทำงานราชการได้ทุนไปเรียนต่อ จนเกษียณอายุ ก็ยังทำงานบริษัทเอกชนต่อ ป้ามีลูกสาว2คน คนนึงเป็นหมอ อีกคนเรียนเศรษฐศาสตร์ทำงานธนาคาร
อา ช 3 เรียนวิศวะ ทำงานเอกชน และแต่งงานมีลูกชาย2คน ก็เรียนจบวิศวะทั้งคู่
อา ช 4 เรียนเศษฐศาสตร์ ทำงานธนาคาร ได้ทุนไปเรียนเมืองนอก มีลูกสาวคนนึง ตอนนี้ลูกสาวยังเรียนมหาลัยอยู่
อีก3คน คือ ลุง ป้า และพ่อ จะนอกรูปแบบหน่อยๆ
ไม่ค่อยรู้เรื่องของลุงเท่าไหร่ รู้แค่ว่าไม่ได้เรียนมหาลัย ทำมาหากินแล้วมีลูกชาย 2คน กับเมียคนแรก มีลูกสาว 1คน กับเมียคนที่สอง
ส่วนของพ่อคือ ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ เลยโดนส่งไปเมืองจีนช่วงม.ปลาย
มีพี่สาวคนโตไปด้วยกัน ทำไปทำมาก็เรียนป.ตรีที่เมืองจีน สาขาเกี่ยวกับเหมืองแร่ ที่มหาลัยในเมืองเซี่ยเหมิน (อยู่กลางๆประเทศจีน ด้านตะวันออก)
หลังจากเรียนจบ(หรือใกล้จะจบนี่แหละ) เป็นช่วงที่เมืองจีนกำลังวุ่นวาย เพราะแก๊งค์สี่คน มีนักศึกษาประท้วง มีเจ้าหน้าที่ปราบปรามมั่วไปหมด แล้วพ่อก็เข้าไปในเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง(เขาว่าไปช่วยเพื่อนออกมา) แล้วโดนตีหัว เลยมีอาการทางสมองต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
ส่วนของพี่สาวคนโตเจอกับ(ว่าที่)สามีที่เมืองจีน แล้วกลับมาไทยมีลูกชาย2คน ป้าคนนี้ย้ายไปอยู่เมืองกาญจน์กับสามี (คนอื่นๆอยู่กรุงเทพกันหมด) ลูกชาย2คนของป้า 1 จบเศรษฐศาสตร์ต่อเนื่องไปจนจบป.เอก ส่วนอีกคนจบนิติศาสตร์
ครอบครัวฝั่งแม่ เกือบทุกคน เรียนจบภาคบังคับ ป.4 ยกเว้นคนเล็ก ได้เรียนถึงอนุปริญญา เหตุผลก็ตรงไปตรงมา คือ ออกมาช่วยกันทำมาหากิน โดยที่บ้านทำกิจการโรงเกี้ยมอี๋และขนมผักกาด ลูกบางคนไปตั้งแผงในตลาดต่างๆ บางคนก็รับเส้นก๋วยเตี๋ยวจากโรงก๋วยเตี๋ยวมาแบ่ง ส่งขายตามร้านต่างๆ
กิจกรรมในบ้านก็มีน้าบางคน รับเป็นแม่งาน เช่น ทำกับข้าว ซักผ้า ส่วนงานสารพัดช่างจะอยู่กับน้าชายที่เป็นผู้ชายคนเดียวของบ้าน รวมถึงทำเครื่องมือทุ่นแรงการทำงานต่างๆ
หลังจากแม่แต่งงาน น้าชายก็แต่ง แล้ว น้า 2,3,5,6 ก็ทยอยแต่งไปเรื่อยๆ ยกเว้นน้า 4,7 ที่ไม่ได้แต่ง (ส่วนใหญ่ก็ผู้ใหญ่จัดการให้)
น้าชายมีลูก 6 คน คนที่ 3 คนเดียวที่เป็นผู้หญิง ที่เหลือชายล้วน (สลับกับรุ่นก่อน ที่มีผู้ชายคนเดียว) น้า 5 มีลูก 2 คน, น้า 6 มีลูกคนนึง
เกือบทุกคนเรียนจบป.ตรี คณะต่างๆกันไป บางคนก็เรียนจบ ป.โท
รุ่นหลานที่บ้านนี้มี 3 กลุ่มๆละ 4คน ตอนเด็กๆจะอยู่ด้วยกันเล่นด้วยกันมากหน่อย (เวลาผู้ใหญ่พาไปเที่ยว ก็ไปเป็นกลุ่มๆ) พอโตค่อยไปบ้านใครบ้านมัน
บ้านปู่อยู่ริมถนน ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยลึก 2-300 เมตร ในซอยมีบ้านยาย
สมัยเด็กๆ ก็จะเดินไปเดินมาระหว่าง2บ้านนี้ บ้านปู่ก็จะมีครอบครัวของป้า2 (ครอบครัวอื่นอยู่ที่บางซื่อ) ส่วนบ้านยาย แทบทุกคนอยู่บ้านติดๆกันในซอย