รูปนี้เอามาจากหนังสือรุ่นของวิศวะ ตอนนั้นเหมือนมีคนบอกให้วาดรูปประกอบ เลยวาดรูปกิจกรรมหลายๆอย่างที่เกิดในลานเกียร์ช่วง 4 ปี (2537-2541) แต่ด้วยความขี้เกียจส่วนตัว ก็เลยวาดแต่ดินสอ แล้วมีคนช่วยลงหมึกให้ก่อนจะเอาไปสแกนแล้วลงหนังสือ ต้นฉบับกระดาษไปอยู่ไหนกับใครแล้วก็ไม่รู้ ¯\_(ツ)_/¯

   ไล่จากมุมซ้ายบนเป็นโต๊ะริมตึก2 ที่รุ่นพี่ภาคเครื่องกลนั่งประจำ บนถนนมีรถเวสป้าของลุงฟรุตกำลังขี่ออกไป(RIP) มีคนวิ่งออกกำลังกาย(ใครไม่รู้ แต่เหมือนเคยเห็นตอนเย็นๆ) มีเพื่อนถือกล้องถ่ายรูปอยู่หน้าป้าย cut-out โฆษณาค่ายหมื่นลี้ กับค่ายเพื่อน ของ2ชุมนุมหลักของคณะ (ความจริงคือจะเป็นป้ายใครป้ายมัน) ข้างๆมีก๊อกน้ำที่ใช้ประจำ ตู้กดน้ำที่บางทีก็เสีย เลยมีคนเตะตู้อยู่ ทางขวามีบันไดขึ้นตึก3 ซึ่งตอนเที่ยงๆ จะมีการตั้งแถวเพื่อเข้าห้องเชียร์ (ห้องประชุมคณะ) วนมาทางเดินด้านขวามีเพื่อนผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ (ถ้าจำไม่ผิดคือฝนที่เป็นนักกอล์ฟ) แล้วก็มีอาจารย์ที่โดนลูกบอล(เตะ)ใส่หัว ถือลูกบอลมาทางนิสิต3คนที่วิ่งไปคนละทาง (ความจริงไม่เคยมีเหตุการณ์นี้ แต่อยากวาดอาจารย์ธาราเอาไว้ในฐานะคนดัง) มุมขวาล่างปลายทางคือโรงอาหาร(ไม่ได้วาดโรงอาหาร) มีคนถือจานชามออกมานั่งกินข้างนอกอยู่ 2 คน

   ส่วนของในลานเกียร์มีกิจกรรมหลายวาระช่วงปี1-2 ด้านล่างของคนที่ถือชามออกมาจากโรงอาหาร เป็นพี่ๆรุ่น 77 กำลังวาด cut-out ที่เป็นเลขรุ่น 78 (อันนี้มีสลับเวลานิดนึง คือตอนพี่ๆเขาวาด เราก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรอก แต่พอเราขึ้นปี 2 แล้ววาด cut-out เพื่อต้อนรับรุ่นน้อง 79 ก็เลยวาดย้อนอดีตใส่ลงไป ซึ่งรูปที่วาดบน cut-out ก็ไม่ใช่รูปนี้) ข้างๆมีเพื่อนอีก 3 คนกำลังทำป้ายค่ายยุววิศวกรบพิธ ๒๖ (จำไม่ได้แล้วว่าตอนวาดนึกถึงเพื่อนคนไหน) ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็จะห่างกับเหตุการณ์วาด cut-out ข้างๆหลายปี เพราะกิจกรรมค่ายอาสาฯของคณะ จะทำตอนปิดเทอมฤดูร้อน (ก่อนจบการศึกษา) ครั้งที่รุ่น 78 เป็นโต้โผ ก็คือครั้งที่ 26 คือกำลังจะจบปี 4 กันแล้ว (ส่วนตัวเคยไปค่ายครั้งที่ 25 ถ้าจำไม่ผิด) กิจกรรมหลักๆก็คือการใช้แรงงาน แบกปูน ผูกเหล็ก สร้างสะพานข้ามธารน้ำ ในพื้นที่ชนบท (ตอนปี 26 บริจาคถั่วเขียวไปเป็นเสบียงนิดหน่อย) ตรงด้านล่างของป้ายยุวฯ มีพ่อค้าขาประจำลานเกียร์หาบไข่ปิ้งมานั่งขาย (จริงๆก็มีคนอื่นอีก เช่น น้องแอลฟี่ แต่ไม่ได้วาด) แขกประจำอีกคนก็คือพี่อ้อยหวานที่อยู่ด้านบน(RIP) ใส่กระโปรงถือร่มไว้หนวดหรอมแหรม อยู่ด้านบนที่มีคนตะโกนรูปปูอยู่ ใกล้ๆตู้กดน้ำ กับโต๊ะเล่นหมากฮอร์ส

    ข้างบนตรงพี่อ้อยหวาน มีสิ่งก่อสร้างที่เพื่อนๆกำลังตอกตะปูกันอยู่ คือเสลี่ยงงานลอยกระทง ซึ่งก็เป็นทรงแบบวิศวะที่เน้นใช้แรงเอาไม้ไผ่ทำเป็นเสลี่ยงหามแบบคณะอื่นๆไม่พอ ต้องสร้างศาลา 4 หน้าสูงขึ้นไปเพื่อให้นางนพมาศ(เก๋)ของคณะนั่ง (จำไม่ได้ว่าวาดใครขึ้นไปตอกตะปูบนหลังคา) ข้างๆเสลี่ยง มีสาวที่ไหนไม่รู้เดินหลงมา (ไม่ใช่สาวในคณะแน่ๆ) ก็มีคนผิวปากแซวไปตาม concept ของคณะชายล้วน (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่เคยเจอใครทำอะไรแบบนั้นนะ) ทางซ้ายมีกลุ่มคนนั่งเรียงกันบนเก้าอี้ที่ซ้อนกันเป็นสแตนด์ กับเพื่อนอีก 3 คนที่ยืนด้านหน้าระหว่าแสตนด์กับเสลี่ยง (ดูจากคาแรกเตอร์น่าจะเดาออกว่าเป็น ปลิว(ชื่อพ่อมัน) บิ้น และดี้ ซึ่งทีมกรรมการนิสิตตอนปี 2 เป็นปีที่กิจกรรมเยอะแยะ) ในส่วนของเพื่อนที่นั่งบนสแตนด์ (รวมตัวเองเข้าไปด้วย) ก็มีหลายคนเท่าที่จะวาดได้ ทีมสแตนด์ก็คือ User interface ในกิจกรรมรับน้องรุ่น 79 (ส่วนใหญ่ของทีมก็จะเป็นพวกกรุ๊ป B กับ N) ในรูปมีผู้หญิง 3 คน คือ เอม เพ็ญ ตาม

    ถัดลงมาทางซ้าย มีอาบังกับโต๊ะขายถั่วพร้อมนกพิราบ อีกหนึ่งขาประจำที่มาขายของในลานเกียร์บ่อยๆ ข้างๆมีคนเล่นกีต้าร์ร้องเพลงอยู่ เป็นโต๊ะม้าหินที่ชมรมวอลเล่ย์นั่งเล่นกันบ่อยๆ แน่นอนว่าคนเล่นกีต้าร์คือกอล์ฟหยอย สาวๆ 4 คน (ร้องเพลงกับเล่นวอลเล่ย์) ก็คือสมาชิกชมรมนั่นแหละ ส่วนที่นั่งพื้นข้างล่างลงมา เดิมแก๊งค์ขี้เมา 3-4คนนี้ นั่งประจำอยู่โซนด้านนอก (ถัดโรงอาหารออกไปทางประตูอักษร) แต่ก็เป็นกลุ่มว้ากเกอร์ ที่ทำกิจกรรมรับน้องกันมา รวมถึงตรงเตาปิ้งย่างด้วย ก็จะเป็น อั้ม นิค จี ส่วนขวดที่วางอยู่ตรงกลางวง ไม่ต้องสนใจ วางประกอบให้รู้ว่าเป็นแก๊งค์นี้เฉยๆ ข้างๆแก๊งค์ขี้เมา ก็คือ เอ โชค กิจ จอม จากชมรมเชียร์ที่เอาเพลทแปรอักษรมาหาคนช่วยซ่อมทุกปีก่อนงานบอล โต๊ะไม้ด้านล่าง 3 ตัวกับต้นไม้ จะเป็นโซนที่นั่งของพวกรุ่นพี่ ที่บางคนก็เหมือนจะนึกออก บางคนก็นึกไม่ออกว่าเป็นใครละ

    โซนตรงกลางรูป เป็นโต๊ะที่เอาไว้นั่งเล่นกันตอนปี2-3 มีกิจกรรมหมากกระดาน (โกะ) เป็นกิจกรรมที่นิยม (โต๊ะขวา) ส่วนอีกโต๊ะนึง เป็นกลุ่มที่เล่น Risk เป็น Board game ที่สร้างความร้าวฉานในหมู่เพื่อน (มีคนกำลังคิด จะส่งตีนให้อีกคนอยู่) เนื้อหาหลักๆของเกมคือเอากองทหารไปตีดินแดนคนอื่น ทางซ้ายมีสาวๆอีก2คนถือไม้แบดฯ จำไม่ได้ว่าใคร แต่ข้างบนมีรุ่นพี่ถือดอกไม้ให้สาวในรุ่นเราอยู่ (ด้วยความที่อัตราส่วน ผญ น้อย มีแค่ร้อยคนจากเจ็ดร้อยในแต่ละปี พอใครโดนจีบ ก็จะเป็นข่าวเสมอ) อีกมุมนึงมีบอร์ดวางอยู่ข้างต้นไม้ บนบอร์ดมีรูปเกีบร์ กับรูปวาดแปะอยู่ คือกิจกรรมตอนจุฬาวิชาการ (ตอนปี3) คณะวิศวะ จะเรียกชื่องานตัวเองว่า งานนิทรรศ (มาจาก นิทรรศการทางวิศวกรรม) ตอนนั้นเป็นครั้งที่ 11 มีจัดประกวดออกแบบ Logo และ Mascot คนได้รางวัล Logo เป็นนิสิตจากคณะศิลปกรรม ส่วนคนได้รางวัล Mascot (จากการโหวต) คือกูเอง (รูปที่วาดเป็นตัวการ์ตูนลูกโลกมีเกียร์คล้องอยู่ อาจจะมีคนเข้าใจผิดกับป้ายที่วาด ปชส.ไว้หน้าคณะ เลยโหวตให้ล่ะมั้ง) และเพื่อเป็นการระลึกถึงอาจารย์คนดัง เลยตั้งชื่อมันว่า Talaจัง